เลี้ยงสัตว์หรือทารุณสัตว์
สัตว์จำพวกลิง ค่าง ชะนี เป็นสัตว์สังคม ที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวหรือเป็นฝูงโดยธรรมชาติ ลิง 1 ฝูงจะมีสมาชิกประมาณ 5 ถึงกว่า 50 ตัว ส่วนชะนีก็จะอยู่เป็นครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูกรุ่นโต รุ่นกลาง และรุ่นเล็ก การที่ลูกของสัตว์ประเภทนี้ถูกพรากมาจากพ่อแม่มาอยู่กับมนุษย์ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ จะทำให้มันสำคัญผิดคิดว่าตนเป็นสัตว์ประเภทเดียวกับมนุษย์ และมีความรู้สึกว่าคนในครอบครัวเป็นสมาชิกในฝูง เกิดความผูกพันทั้งทางร่างกายและทางจิตใจอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อมันพ้นวัยเด็กไปแล้ว ความน่ารักก็จะค่อย ๆ หมดไป เหลือแต่ความแข็งแรงและความซน ที่มักจะชอบค้นและทำข้าวของในบ้านเสียหาย บางครั้งเจ้าของเอาไว้ไม่อยู่ เกิดหลุดออกไปทำร้ายและสร้างความเสียหายให้แก่เพื่อนบ้านจนเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ต้องเสียค่าปรับ ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าของมักเกิดความเบื่อหน่าย รำคาญ หมดความรัก ไม่คอยเอาใจใส่อีกต่อไป อาจจะนำไปล่ามไว้ด้วยเชือกหรือโซ่สั้น ๆ ที่ยาวเพียงเมตรกว่า ๆ หรือไม่ก็ยกให้เพื่อนฝูงหรือสวนสัตว์ไป การยกให้เพื่อนฝูงไปก็เท่ากับนำปัญหาของตนไปให้ผู้อื่น เจ้าของใหม่ก็จะประสบกับปัญหาเช่นเดียวกัน จนอาจยกให้คนอื่นต่อไปอีก แต่ถ้าหากว่ามันถูกนำไปให้สวนสัตว์ ซึ่งทางสวนสัตว์ก็มีลิง ค่าง ชะนีอยู่มากแล้ว ก็จะเกิดปัญหาไม่มีกรงเพียงพอ จำเป็นต้องนำลิง หรือชะนีที่ท่านไม่ต้องการแล้วนี้ ไปขังรวมกับลิงและชะนีเก่าที่มีอยู่ ทำให้ลิงหรือชะนีของท่านตกใจอย่างที่สุด เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นสัตว์พวกเดียวกัน เลยเกิดความรู้สึกว่าตนเองถูกจับใส่เข้าไปในกรงของสัตว์ชนิดอื่นที่หน้าตาน่าเกลียด น่ากลัว ทำให้ไม่กล้ากินอาหาร หรือเจ้าของกรงอาจจะกีดกันไม่ให้กินน้ำและอาหาร จนในที่สุดก็จะตายไปอย่างทุกข์ทรมาน
ในรายที่เจ้าของไม่ได้นำไปมอบให้ผู้ใด แต่ยังคงเลี้ยงเอาไว้ต่อไป โดยวิธีการล่ามหรือขังกรงเอาไว้ ลิง ค่าง หรือชะนีนั้นก็จะเกิดความเหงา อารมณ์เสีย และก้าวร้าว มักส่งเสียงร้องหนวกหูรบกวนเพื่อนบ้าน ถือว่าเป็นกรรมและความทรมานของทั้งคนและสัตว์ จนกว่าสัตว์นั้นจะตายไป ซึ่งก็อาจเป็นเวลานานมาก เพราะเท่าที่เราศึกษากันมาจากชะนีที่ชาวต่างประเทศในกรุงเทพฯ เลี้ยงเอาไว้นั้นมีอายุถึง 28 ปีแล้ว ถึงแม้จะแก่มากแต่ก็ยังแข็งแรงดี มีทีท่าว่าอาจจะอยู่ต่อไปได้อีกหลายปี
นอกจากนี้ ลิง ค่าง และชะนีที่ถูกล่ามไว้ อาจจะตากแดด ตากลม ตากฝน จนร่างกายทรุดโทรม ต้องเก็บอาหารที่ตกตามพื้นสกปรกกิน ถูกสุนัขรบกวน ถูกเด็กเอาไม้แหย่ เอาก้อนหินขว้างปาหรือสาดน้ำใส่ บางครั้งมีเด็กซน ๆ อยากทดสอบคำกล่าวที่ว่าลิงเกลียดกะปิ โดยการเอากะปิคลุกข้าว หรือเอาพริกฝังไว้ในผลไม้ให้ลิงกิน สร้างความทรมานให้มันยิ่งนัก โดยธรรมชาติของสัตว์ป่า เมื่อมีคนเข้าใกล้หรือถูกคนรังแกก็มักจะเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งคือหนีหรือสู้ แต่หากไม่มีทางหนีหรือสู้เพราะถูกล่ามโซ่ไว้ ลิง ค่าง หรือชะนีบางตัวก็จะกัดแขน ขาหรือหางของตัวเอง เพราะความกดดัน ลิงตัวผู้บางตัวหาวิธีแก้ความเบื่อหน่ายและป้องกันตัวด้วยการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เนื่องจากได้เรียนรู้ว่าเมื่อใดที่มันทำเช่นนั้น คนมักจะหยุดรังแกแล้วยืนหัวเราะ มันจะจำเอาไว้ แล้วใช้วิธีดังกล่าวเป็นเครื่องป้องกันตัวเมื่อถูกรังแกจนติดเป็นนิสัย คนกลับมองว่าลิงตัวผู้บางตัวเป็นสัตว์ลามก ชอบทำบัดสี แต่แท้จริงแล้ว เป็นการกระทำเพื่อให้พ้นจากการถูกทำร้ายเท่านั้น
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยง ลิง ค่าง หรือชะนี ควรจะตระหนักเอาไว้ก็คือ ธรรมชาติจะบังคับไว้ว่า ลูกสัตว์ป่าทุกตัวเมื่อถึงวัยที่จะผสมพันธุ์ได้แล้ว จะต้องแยกตัวออกจากฝูงหรือครอบครัวไป เพื่อหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์กับสัตว์ที่มีสายเลือดเดียวกัน ด้วยการทะเลาะหรือกัดกันจนต้องแยกตัวออกไปตั้งฝูงหรือเข้าฝูงใหม่ เพราะสัตว์ที่ผสมพันธุ์กับสายเลือดเดียวกันจะอ่อนแอ ไม่สามารถดำรงพันธุ์ต่อไปได้ ส่วนลิง ค่าง และชะนีที่ท่านเลี้ยงเอาไว้นั้น เมื่อโตเต็มที่ถึงวัยเจริญพันธุ์ ก็อาจจะกัดเจ้าของ เพื่อทดสอบพลังว่าใครจะแข็งแรง เหมาะที่จะเป็นจ่าฝูงกว่ากัน ลิงหรือชะนีบางตัวที่อยู่ร่วมกับคนมานาน เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ก็อาจจะหลงรักคนเลี้ยงหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งในครอบครัว แล้วจะหึงหวงกัดผู้อื่นในบ้าน เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากมาก เพราะชะนีที่อายุประมาณ 6 ขวบขึ้นไป เมื่ออยู่ในฤดูผสมพันธุ์ มักจะแข็งแรงและดุร้าย บาดแผลที่กัดคนนั้น จะเหวอะหวะและเจ็บปวดมาก เพราะชะนีเป็นสัตว์ที่มีเขี้ยวยาวแหลมคม และมีกำลังแข็งแรง ปัญหานี้ คนมักไม่เข้าใจว่าเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติ กลับมองว่าเป็นสัตว์หน้าขน เลี้ยงไม่เชื่อง ไว้ใจไม่ได้ และขาดความกตัญญู แต่ถ้าเราสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามนุษย์ก็มีสัญชาตญาณโดยธรรมชาติคล้ายกัน คือเมื่อถึงวัยรุ่นหนุ่มรุ่นสาว ถึงเวลาที่ควรจะแยกตัวไปมีครอบครัวของตนเอง แต่ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจบังคับให้ต้องอยู่กับพ่อแม่ เช่น ยังเรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้เอง จึงมักจะเห็นว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่มีเรื่องขัดแย้งไม่ลงรอยกับพ่อแม่อยู่เสมอ
ผู้เลี้ยงจะต้องตระหนักไว้เสมอว่าการเลี้ยงสัตว์นั้นเป็นภาระต่อเนื่องไม่มีวันหยุด วันพักหรือวันลา การที่จะจากบ้านไปเที่ยวพักผ่อนหรือไปธุระไกล ๆ หลายวัน และทิ้งสัตว์เลี้ยงเอาไว้ตามลำพัง โดยไม่มีคนดูแลนั้นย่อมทำไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะมีคนรับใช้เอาไว้คอยดูแล เขาก็อาจจะไม่รักและสามารถดูแลสัตว์ได้ดีเท่าเจ้าของ นับเป็นการทรมานสัตว์อีกอย่างหนึ่ง
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อจะเตือนสติว่า การเลี้ยงสัตว์ป่านั้นไม่ใช่ของง่าย และเป็นสิ่งไม่ควรทำ ควรปล่อยให้เป็นเรื่องขององค์การสวนสัตว์ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่ทำการวิจัยในเรื่องของสัตว์นั้น ๆ การเลี้ยงสัตว์นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ควรจะเลือกเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ปลา ไก่ กระต่าย และนกบางชนิดที่ซึ่งสามารถเพาะพันธุ์ได้จะดีกว่า
สัตว์ป่านั้นเหมาะที่จะอยู่แต่ในป่าเท่านั้น สัตว์ป่าทุกชนิดจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสกับมนุษย์เสมอ แต่มนุษย์ก็ยังคงใช้ความพยายามนำสัตว์ป่าเหล่านี้มาเลี้ยงจนได้ เมื่อเกิดปัญหา มนุษย์ก็มักจะไม่ยอมรับว่าปัญหานั้นเกิดจากตน แต่จะโทษว่าสัตว์ป่าไม่ฉลาด เลี้ยงไม่เชื่อง นิสัยไม่ดี และเมื่ออยู่กันอย่างขาดความเข้าใจ ขาดความรักความเมตตา ก็จะเกิดความทรมานขึ้นทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น ก่อนที่จะนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงไว้ในบ้าน ขอให้ท่านคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- ท่านเป็นคนที่รักสัตว์ป่าจริงจังเพียงใด
- ท่านมีเวลาเพียงพอที่จะให้ความรัก ความเมตตา และความสุขแก่มันตามสมควรหรือไม่
- ท่านมีความรู้ในเรื่องของสัตว์ชนิดนั้น ๆ เช่น ความเป็นอยู่ อาหารการกิน ตลอดจนนิสัยใจคอเพียงพอแล้วหรือยัง
- ท่านมีฐานะทางเศรษฐกิจเพียงพอที่จะสร้างที่อยู่และซื้ออาหารให้สัตว์หรือไม่ เพราะอาหารบางชนิดราคาแพงมาก บางชนิดก็หายาก ต้องไปหาซื้อจากที่ไกล ๆ มากักตุนไว้
- ท่านมีเพื่อนบ้านที่เข้าใจท่านหรือไม่ หากสัตว์ที่ท่านเลี้ยงเกิดส่งเสียงร้องหนวกหูขึ้นมา โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่คนกำลังพักผ่อน หรือทำสกปรกส่งกลิ่นรบกวน หรือหลุดไปทำร้ายคน และทำลายทรัพย์สินของเพื่อนบ้าน ท่านคิดว่าท่านจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับเพื่อนบ้านของท่านได้หรือไม่
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น ลิง ค่าง ชะนี สามารถเป็นตัวนำเชื้อโรคกลัวน้ำมาสู่ท่านได้ นอกจากนี้การถูกสัตว์กัดหรือข่วนก็เสี่ยงต่อการเป็นบาดทะยักได้อีกด้วย
โปรดอย่าลืมว่า เมื่อท่านนำสัตว์ป่าเข้ามาเลี้ยงในบ้านของท่านแล้ว ท่านคือผู้กำชีวิตของเขาไว้ เขาจะมีความสุข ความทุกข์ จะอยู่หรือจะตาย จะอิ่มหรือจะหิวนั้น ก็ขึ้นอยู่กับท่านแต่เพียงผู้เดียว ท่านเปรียบเสมือนเป็นเจ้าชีวิตของเขา เมื่อเลี้ยงเขาแล้วก็โปรดให้ความเมตตา ให้ความรักแก่เขาบ้าง หากท่านทำไม่ได้ ก็โปรดอย่านำสัตว์ป่ามาเลี้ยงเลย จะเป็นการทรมานทั้งต่อตัวท่านเองและต่อสัตว์ป่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชากรของสัตว์ป่าที่มีน้อยอยู่แล้วในป่าเมืองไทยของเราต้องลดจำนวนลงไปอีก เพราะเขาไม่สามารถอยู่อย่างเป็นอิสระและผสมพันธุ์แพร่ลูกหลานให้เป็นทรัพยากรธรรมชาติของเราได้เหมือนกับสภาพตามธรรมชาติที่เขาควรจะอยู่ จึงขอวิงวอนว่าหากไม่จำเป็นจริง ๆ หรือท่านไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความตั้งใจที่จะศึกษาสัตว์ป่า หรือเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจริงๆ แล้ว โปรดอย่านำสัตว์ป่ามาเลี้ยงไว้ในบ้านของท่านเลย
พิสิษฐ์ ณ พัทลุง
พฤศจิกายน 2531
A true conservationist is a man who knows that the world is not given by his fathers, but borrowed from his children.
นักอนุรักษ์ที่แท้จริงคือคนที่รู้ว่าโลกและธรรมชาติไม่ได้เป็นมรดกจากบรรพบุรุษ แต่ยืมมาจากลูกหลาน
John James Audubon
นักอนุรักษ์ที่แท้จริงคือคนที่รู้ว่าโลกและธรรมชาติไม่ได้เป็นมรดกจากบรรพบุรุษ แต่ยืมมาจากลูกหลาน
John James Audubon
Born a wildlife warrior, die a wildlife warrior.
เกิดเป็นนักอนุรักษ์ ตายอย่างนักอนุรักษ์
Steve Irwin
เกิดเป็นนักอนุรักษ์ ตายอย่างนักอนุรักษ์
Steve Irwin
It is horrifying that we have to fight our own government to save the environment.
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราต้องต่อสู้กับรัฐบาลของเราเอง เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม
Ansel Adams
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราต้องต่อสู้กับรัฐบาลของเราเอง เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม
Ansel Adams